AI ในชีวิตประจําวัน มีอะไรบ้าง ใช้แบบไหนดีที่สุด

บทความโดย Yes Web Design Studio

 

AI technology
รูปภาพจาก: images.unsplash.com

 

AI ในชีวิตประจําวัน มีอะไรบ้าง ใช้แบบไหนดีที่สุด

ลองนึกถึงตอนเช้าตรู่ที่คุณตื่นด้วยเสียงผู้ช่วยอัจฉริยะ แจ้งเตือนว่าวันนี้มีประชุมอะไรบ้าง พร้อมฟังเพลงโปรดที่แนะนำไว้ในเพลย์ลิสต์ ถึงเวลาช้อปปิ้ง AI ก็ส่งสินค้าแนะนำมาให้แบบโดนใจจนเลือกไม่ถูก ปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยีสุดล้ำที่มีอยู่ในห้องแล็บอีกต่อไป แต่ผูกโยงกับทุกจังหวะชีวิต ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักธุรกิจ หรือใครก็ตาม AI อยู่รอบตัวมากกว่าที่คิด แล้ว AI อะไรบ้างที่เปลี่ยนชีวิตคุณได้จริง? และจะเลือกใช้อย่างไรให้ “ฉลาด” ที่สุด? มาค้นหาคำตอบกัน

 

AI explanation
รูปภาพจาก: images.unsplash.com

 

AI คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญในชีวิตประจำวัน

ถ้าถามเด็กมหาลัยยุคนี้ว่ารู้จัก AI ไหม คำตอบแทบทุกคนคือ “รู้จัก” แต่รู้ลึกแค่ไหนยังเป็นอีกเรื่อง จริงๆ แล้ว AI (Artificial Intelligence) คือ การสร้าง “สมองกล” ให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ คิดวิเคราะห์ ทำสิ่งต่างๆ ได้เฉียบขาด คล้ายๆ กับเวลาคุณสอนเด็กเล็กให้รู้จักแยกแยะข้อมูล มันมากกว่าแค่คำนวณหรือค้นหา AI สามารถสังเคราะห์ข้อมูลมหาศาล ตีความ แล้วตัดสินใจเองตามสถานการณ์

สิ่งนี้สำคัญอย่างไรในชีวิตประจำวัน? ลองนึกถึงระบบแนะนำของ Netflix ที่เดาใจเราเป๊ะ หรืองานบ้านที่ง่ายขึ้นด้วยหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ต่อให้ไม่ได้เข้าใจศาสตร์ยุ่งเหยิง AI ก็แทรกอยู่ในงานที่คุณใช้บ่อยๆ ทำให้ชีวิตสะดวก ประหยัดเวลา และบางที ช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำกว่าเดิม

ถ้าเอาแบบสั้นๆ AI อยู่เบื้องหลังความสะดวกตั้งแต่ปลุกเช้า คัดสรรข่าวไปจนถึงช้อปปิ้งออนไลน์ ทั้งหมดนี้เพราะ AI มองเห็นพฤติกรรมเรา เก็บข้อมูล และคาดเดาความต้องการได้ใกล้เคียงที่สุด

แล้วคุณจะไม่ให้ความสำคัญกับ AI ได้ยังไงในเมื่อมัน “เป็นเพื่อนคู่คิด” ในทุกจังหวะชีวิต

 

smart assistant
รูปภาพจาก: images.unsplash.com

 

ตัวอย่าง AI ในชีวิตประจำวัน

AI ไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในออฟฟิศของเทคคอมปานีใหญ่ หรือแค่ห้องแล็บอีกต่อไป มันอยู่ในทุกสิ่งที่เรา “จิ้ม” สั่งงานในแต่ละวัน คุณอาจกำลังคุยกับมันอยู่โดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่า AI ในชีวิตประจำวัน โผล่มาตอนไหนบ้าง

ผู้ช่วยอัจฉริยะ (Smart Assistants)

ลองพูดว่า “Siri วันนี้ฝนจะตกไหม” หรือ “Hey Google พรุ่งนี้ตั้งปลุกเจ็ดโมง” คุณกำลังคุยกับ AI แบบเห็นๆ ผู้ช่วยอัจฉริยะเหล่านี้ตอบโต้ภาษาไทยได้แม่นขึ้นเรื่อยๆ จากประสบการณ์และ “การจำเสียง” รู้ว่าคุณอยากทำอะไรต่อ แถมช่วยโทรศัพท์ ส่งข้อความ เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน หรือสืบหาคำตอบที่อยากรู้แบบเรียลไทม์

ทุกค่ายใหญ่มีผู้ช่วยตัวเอง: Apple Siri, Google Assistant, Samsung Bixby, Amazon Alexa อัจฉริยะ เพราะเรียนรู้จากเรา ยิ่งใช้บ่อย ยิ่ง “เข้าใจเรา” มากขึ้น

 

AI ในสมาร์ทโฟน (AI in Smartphones)

เปิดกล้องมือถือแล้วใบหน้าคมชัดทุกแสง? หรือปลดล็อกเครื่องแค่เหลือบมอง? ทั้งหมดคือ AI ทำหน้าที่ปรับแต่งภาพอัตโนมัติ วิเคราะห์ฉากหลัง คาดเดาวัตถุ พร้อมจัดการพลังงานในเครื่องให้เหมาะกับลักษณะใช้งานประจำ ตัวอย่างอย่างชัดเจนก็ Face ID ของ iPhone, Night Sight ใน Google Pixel หรือแอป Google Lens ที่แปลภาษาในเสี้ยววินาที

เทคโนโลยี AI เหล่านี้ช่วยให้โทรศัพท์ “ฉลาด” มากขึ้น ใช้งานไหลลื่น เหมาะกับชีวิตที่ต้องเร็วและมีเซอร์ไพรส์ทุกวัน

 

การช็อปปิ้งและแพลตฟอร์มออนไลน์ (Shopping & Online Platforms)

เคยสังเกตไหม ว่าแอปช็อปปิ้งหรือโซเชียลมีเดียของคุณมักแนะนำสินค้าตรงใจ? ไม่ใช่แค่ “อัลกอริทึม” แต่นี่แหละคือ AI ที่วิเคราะห์ทั้งพฤติกรรมการซื้อ ขณะที่คุณเลือกไซส์ สี ไปจนถึงคำค้นหา AI จะจดจำและคาดการณ์ความต้องการของแต่ละคน

แถมมีแชทบอท ช่วยตอบคำถาม-แนะนำสินค้า เก่งพอๆ กับพนักงานหน้าร้าน ส่วนเรื่องความปลอดภัย ระบบ AI ใช้วิเคราะห์เทรนด์ธุรกิจและแจ้งเตือนป้องกันธุรกรรมต้องสงสัย ช้อปปิ้งออนไลน์จึงไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ชาญฉลาด” กว่าเดิม

 

ระบบแนะนำสื่อบันเทิง (Recommendation Systems)

เบื่อไหมที่มันเลือกหนังผิดเรื่อง หรือเพลงแปลกๆ โผล่มาในเพลย์ลิสต์? เดี๋ยวนี้ AI ของ Netflix, Youtube, Spotify วิเคราะห์พฤติกรรมครั้งก่อนๆ แล้วช่วยคัดกรอง “สิ่งที่คุณอยากดู” ได้แม่นกว่าเดิม บางคนถึงกับพูดว่าระบบแนะนำของ Netflix เข้าใจความชอบดีกว่า